Wikipedia

ผลการค้นหา

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ขั้นตอนการสร้างกับโครงสร้างwebsite

หลักการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์มีดังนี้
          1. กำหนดวัตถุประสงค์ โดยพิจารณาว่าเป้าหมายของการสร้างเว็บไซต์นี้ทำเพื่ออะไร
          2. ศึกษาคุณลักษณะของผู้ที่เข้ามาใช้ว่ากลุ่มเป้าหมายใดที่ผู้สร้างต้องการสื่อสาร ข้อมูลอะไรที่พวกเขาต้องการโดยขั้นตอนนี้ควรปฏิบัติควบคู่ไปกับขั้นตอนที่หนึ่ง
          3. วางแผนเกี่ยวกับการจัดรูปแบบโครงสร้างเนื้อหาสาระ การออกแบบเว็บไซต์ต้องมีการจัดโครงสร้างหรือจัดระเบียบข้อมูลที่ชัดเจน การที่เนื้อหามีความต่อเนื่องไปไม่สิ้นสุดหรือกระจายมากเกินไป อาจทำให้เกิดความสับสนต่อผู้ใช้ได้ ฉะนั้นจึงควรออกแบบให้มีลักษณะที่ชัดเจนแยกย่อยออกเป็นส่วนต่าง ๆ จัดหมวดหมู่ในเรื่องที่สัมพันธ์กัน รวมทั้งอาจมีการแสดงให้ผู้ใช้เห็นแผนที่โครงสร้างเพื่อป้องกันความสับสนได้
          4. กำหนดรายละเอียดให้กับโครงสร้าง ซึ่งพิจารณาจากวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยตั้งเกณฑ์ในการใช้ เช่น ผู้ใช้ควรทำอะไรบ้าง จำนวนหน้าควรมีเท่าใด มีการเชื่อมโยง มากน้อยเพียงใด

โครงสร้างwebsite

Header


สำหรับไว้แสดงโลโก้ หรือข้อความที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาอะไรบ้าง ในส่วน Header อาจเป็นพื้นที่สำหรับใส่ป้ายโฆษณา สำหรับการหารายได้พิเศษ นอกจากนี้อาจมีคำนิยามของเว็บไซต์หรือสโลแกนต่อท้ายโลโก้

Footer


คือส่วนล่างสุดของหน้าเว็บไซต์ ส่วนใหญ่จะเก็บลิงก์ต่าง ๆ เอาไว้ หรือเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ เช่นลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ถามว่าจำเป็นต้องมีหรือไม่ บอกได้ว่าจำเป็นอย่างยิ่ง footer จะเป็นตัวบอกผู้ชมว่าส่วนนี้คือล่างสุดของหน้าที่กำลังแสดงอยู่แล้วนะ ไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติมแล้ว ทำไม่ต้องบอกเนื่องจากการแสดงเว็บไซต์ในบางครั้งนั้นหน้านั้นอาจโหลดได้ไม่หมด อาจแสดงได้แค่เนื้อหาภายใน หากเราออกแบบให้มี footer ตั้งแต่แรกผู้ใช้งานก็จะรู้ได้ทันทีว่าหน้าที่แสดงผลนี้อาจแสดงได้ไม่สมบูรณ์เพราะยังไม่เห็น footer และยังมีผลต่อภาพลักษณ์ของเว็บไซต์โดยตรง เราจะสังเกตได้ว่าเมื่อเข้าไปดูเว็บไซต์ที่ไม่มี footer จะรู้สึกเหมือนกับว่าเว็บไซต์นั้นยังทำไม่เสร็จ หรือขาดอะไรบางอย่าง

Contents


ส่วนเนื้อหาของเว็บไซต์ เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุด หากผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายผู้ใช้งานจะเปลี่ยนไปชมเว็บใหม่ทันที เนื้อหาที่ดีควรมีการจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน เพื่อให้สะดวกในการติดตามอ่านข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม ส่วนประเภทเนื้อหา ประกอบด้วย ข้อความที่เป็นตัวอักษร, รูปภาพ, ภาพเคลื่อนไหว, ไฟล์เสียง, วีดีโอ เป็นต้น

Logo


เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงตัวตนของเรา ทำให้ลูกค้าหรือผู้ใช้งานจดจำเราได้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้การออกแบบเว็บไซต์นั้นจำเป็นต้องมีโลโก้ ของเว็บไซต์เป็นอย่างยิ่ง จะสังเกตได้ว่าจะเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนของเว็บไซต์ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้งานจำได้ และสะดุดตา เรื่องที่ต้องเตือนให้รู้กันก็คือ โลโก้ของเว็บไซต์เมื่อคลิกจะนำไปสู่หน้าแรกของเว็บไซต์เสมอ

Navigation


เป็นส่วนที่จะนำผู้เข้าชมเว็บไซต์ไปยังส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ โดยสามารถทำให้อยู่ในแนวนอน หรือแนวตั้งก็ได้ ตำแหน่งที่ควรจะวาง navagation เอาไว้ให้อยู่ในส่วนด้านบนของเว็บไซต์ หรือจะพูดอีกอย่าง คือ ส่วนที่เมื่อผู้ใช้เปิดมาก็ต้องเจอได้ทันที ไม่ควรวางไว้ในตำแหน่งที่ผู้ใช้จะต้องเลื่อนขึ้นลง ซ้ายขวา

Whitespace


พื้นที่ว่างในเว็บไซต์ คนส่วนใหญ่มักไม่เห็นความสำคัญของการเว้นพื้นที่ว่างไว้ในเว็บไซต์ เรามักจะใส่ภาพหรือตัวหนังสือเข้าไปให้มากที่สุดเพราะคิดว่าจะทำให้เว็บดูสวยงามขึ้น หรือใช้พื้นที่มีมีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด หากเราออกแบบโดยไม่ได้คำนึงว่าต้องมีพื้นที่ว่างอยู่ในเว็บไซต์ จะทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นดูอึดอัดทันที การเว้นช่องว่างเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระยะห่างระหว่างตัวอักษร หรือช่องว่างระหว่างภาพ เนื้อหาต่าง ๆ นอกจากจะทำให้เว็บไซต์ของเราดูสบายตาขึ้นแล้ว ยังทำให้เราสามารถกำหนดจุดที่จะให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์รู้สึกสนใจในจุดนั้นได้อีกด้วย เช่น หากเราเว้นช่องว่างเอาไว้ตรงกลาง และนำภาพหรือตัวหนังสือเล็ก ๆ ไปวางไว้ ตรงจุดนั้นจะเป็นที่สนใจของผู้ใช้ทันที


ที่มาบทความ – http://www.thamwebiseasy.com/good_web_site/ที่มาบทความ – http://www.hellomyweb.com/index.php/main/content/134

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

SQL (Standard Query Language)

ภาษา Standard relational database Query Language (SQL)
ภาษาที่กลายเปนภาษามาตรฐานสํ าหรับระบบฐานขอมูลคือ ภาษา Standard relational database
Query Language หรอเอสค ื ิวแอล (SQL) หรือซีควอล (SE-QUEL) ซึ่งเปนภาษาที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท
ไอบเอี ม็ ภาษา SQL (Standard Query Language) เปนสวนหนึ่งของระบบฐานขอมูลแบบรีเลชั่นเนล
(Relational Database) ทไดี่ รบความน ั ิยมมากเพราะงายตอความเขาใจ และอยูในรูปภาษาอังกฤษ ภาษา
SQL แบงออกเปน 2 สวน คือ
• ภาษาที่ใชสํ าหรับนิยามขอมูล (Data Definition Language-DDL)
• ภาษาสํ าหรับการจัดการขอมูลล (Data Manipulation Language: DML)
• ภาษาควบคุม (Control Language)
• ภาษาในการเลือกขอมูล (Data Query Language)
รูปแบบการใชคํ าสั่ง SQL สามารถใชไดเปน 2 รูปแบบ ดังนี้ คือ
• คํ าสั่ง SQL ที่ใชเรียกดูขอมูลไดทันที (Interactive SQL)
เปนการเรียกใชคํ าสั่ง SQL สั่งงานบนจอภาพ เพื่อเรียกดูขอมูลในขณะที่ทํ างานไดทันที เชน
SELECT CITY
FROM SUPPLIER
WHERE SNO = ‘SE’;
• คํ าสั่ง SQL ที่ใชเขียนรวมกันโปรแกรมอื่น ๆ (Embedded SQL)
เปนคํ าสั่ง SQL ที่ใชรวมกับคํ าสั่งของโปรแกรมภาษาตาง ๆ เชน PL/1 PASCAL ฯลฯ หรือแม
แตกับคํ าสั่งในโปรแกรมที่ระบบจัดการฐานขอมูลนั้นมีใชเฉพาะ เชน ORACLE มี PL/SQL (Procedural
Language /SQL) ที่สามารถเขียนโปรแกรมและนํ าคํ าสั่ง SQL มาเขียนรวมดวย เปนตน
ตัวอยางการใชคํ าสั่ง SQL ในภาษา PL/1
EXEC SQL SELECT CITY
INTO :XCITY
FROM SUPPLIER

WHERE SNO = ‘S4’;
หากเรามีสโตร์โพรซีเยอร์ Stored Procedure ชื่อ sp_test ที่อยู่ในฐานข้อมูล db1 แต่ต้องการเรียกใช้งานในฐานข้อมูล db2 มีวิธีเรียกใช้งานได้ง่าย ๆ โดยเราต้องระบุชื่อฐานข้อมูลขึ้นหน้าก่อนตัวอย่างเช่น

EXEC db1.dbo.sp_test(100)

เพียงแค่นี้ระบบจะไปเรียกใช้งานและประมวลผล sp_test ที่อยู่ในฐานข้อมูล db1 เป็นที่เรียบร้อย หากเราไม่ระบุ db1.dbo นำหน้าระบบจะทำการค้นหา Stored Procedure ในฐานข้อมูล db2 หากไม่พบจะแจ้ง Error ออกมา โดยรูปแบบการเรียกใช้คล้าย ๆ ก็จะคล้าย ๆ กับการเรียกใช้งานตารางหรือวิวที่อยู่ฐานข้อมูลอื่นๆ นั่นเอง

แต่หากเราต้องการที่จะสร้าง Stored Procedure และ User Defined Function ให้สามารถเรียกใช้งานได้ทุกฐานข้อมูลโดยไม่ต้องระบุชื่อฐานข้อมูลก่อน ซึ่งจะคล้าย ๆ กับ Stored Procedure ที่มีอยู่แล้วในระบบ เราก็สามารถสร้างขึ้นมาใช้งานเองได้ แต่ต้องสร้างStored Procedure และ User Defined Function ในฐานข้อมูล master เท่านั้น เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกฐานน้อมูลก็จะสามารถมองเห็นได้

โดยการสร้าง Stored Procedure และ User Defined Function ในฐานข้อมูล master มีหลักการตัั้งชื่อที่ต้องเป็นไปตามกฏของ SQL Server นั่นคือหากเป็นชื่อของ Stored Procedure จะต้องขึ้นต้นด้วย sp_ หากเป็น User Defined Function ก็ต้องขึ้นต้นด้วย fn_ เสมอ

และเมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องเปลียนชื่อ owner ให้เป็น system ด้วยทุกครั้งโดยต้องใช้คำสั่ง EXEC sp_changeobjectowner ตัวอย่างการใช้งานมีดังนี้

CREATE FUNCTION fn_compute(@num1 int, @num2 int)

RETURN int

AS

BEGIN

              RETURN @num1+@num2

END

EXEC sp_changeobjectowner   'fn_compute', ' system_function_schema'
Go


และหากเราต้องการแก้ไขข้อมูล 
Stored Procedure และ User Defined Function ที่มีอยู่ในฐานข้อมูลมาสเตอร์ก็ต้องปลดล็อกให้สามารถแก้ไขได้โดยใช้คำสั่ง EXEC sp_configure มีวิธีใชังานดังต่อไปนี้

EXEC sp_configure 'fn_compute', 1

เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แก้ไขสถานะเป็น 0 เหมือนเดิมเพื่อป้องกันการแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ

EXEC sp_configure 'fn_compute', 0

ในการสร้าง แก้ไข และลบ Stored Procedure และ User Defined Function ที่มีอยู่ในระบบจะต้องทำอย่างรอบคอบมากเนื่องจากฐานข้อมูล master นั้นเป็นฐานข้อมูลหลักที่ทุก ๆ ฐานข้อมูลทุกตัวมีการเรียกใช้งานอยู่ตลอดเวลา หากเราแก้ไขข้อมูลผิดพลาดแล้วอาจจะทำให้การทำงานของระบบผิดเพี้ยนไปได้ครับ 


วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ภาษาPlaza



          ‘ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายงานภาษาพลาซ่าแหล่งรวมความบันเทิงทางด้านภาษาและจะพาทุกคนไปซ่าส์กับภาษาให้ฮากระจาย อ่ะครึครึครึ  -..-’
          มาดามมดขอรีฟิวส์ด้วยการกลับมาเอาใจคนฮาเข้ากระแสเลือด เอ๊ะ!!ฮาไม่ฮาอันนี้ไม่รู้แล้วแต่คนน่ะ แต่ทุกคนคงจะพอคุ้นหูบ้างไรบ้างกับรายการนี้ ขอบอกว่าพิธีกรเอิ่มมาก =[]=!! แต่เค้าก็มีมุมน่ารักๆเหมือนกันน่ะ แล้วแค่คนมอง
                ไม่ได้อะไรหรอก ก็เอ่ออยากพูดเรื่องนี่นิดหน่อย คอมเม้นอ่ะคอมเม้นรู้จักป่ะ -3-

Comment
-ตกลงรายการนี้จะสอนให้พูดภาษาไทย หรือทำภาษาไทยวิบัติกันแน่อันนี้งง _*_ แต่ไม่ต้องงงจ้า เพราะรายงานนี้ชื่อก็บอกแล้วภาษาไปพลาซ่ามันก็ต้องโกอินเตอร์บ้างไรบ้าง ก็เฮฮากันไป ได้รับความบันเทิงสนุกสนานกัน ขอตบท้ายด้วยหน้าพิธีกรสุดสวยของรายงานน่ะจ๊ะ ^3^




               สุดท้ายแล้วน่ะขอฝากรายการภาษาพลาซ่าดูกันเฮฮาคลายเครียด(หรือเครียดหนีกกว่าเดิม -_-^)ทางช่อง Play Channel น่ะเอ่อ...แล้วเจอกันม๊ายยยยยยย >////<

The To Do List

         
          มาผ่อนคลายกับหนังฝรั่งที่จะเข้าในเร็ววันนี้กันบ้างน่ะ -0- (บล็อกนี้ผ่อนคลายทุกเรื่องจ้า ^.^) ขอยกตัวอย่างหนังเรื่องหนึ่งมาน่ะจ้า แบบว่าดูทีเซอร์แล้วน่าดูจริงไรจริง =.,= (ทำไมต้องทำหน้าหื่น -_-) ก่อนอื่นเลยขอเรียกน้ำย่อยด้วย...









               ใน The To-Do List ว่าด้วยเรื่องราวของ แบรนดี้ คลาร์ค (ออเบรย์ พลาซ่า) สาวใสวัยมัธยมผู้คลั่งความเป็นเลิศไปซะทุกเรื่อง ที่ตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีวิตตัวเองก่อนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ด้วยการเขียน To-Do List หรือรายการสิ่งที่เธอต้องปฏิบัติในเรื่องทางเพศที่เธอไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน พร้อมทั้งเสาะหาผู้ช่วยเพื่อที่จะทำให้ตัวเธอเองเชี่ยวชาญในเรื่องเพศ ซึ่งการค้นพบเรื่องเซ็กส์ของเธอก็นำมาซึ่งความฮา สัปดน และความป่วนในระดับที่ไม่มีใครคาดคิด (CREDIT : http://movie.kapook.com/view64355.html)

                                                                                                        coming soon...

HORMONES

Hormones




                Hormones (วัยว้าวุ่น) หลายคน โอ๊ะ!!ไม่สิเกือบค่อนประเทศคงจะรู้จักหรือเคยได้ยินซีรี่ย์เรื่องนี้มาบ้าง มันไม่ใช่แค่หนัง หรือละครน้ำเน่า ตบ ตี ฆ่า ฟัน หรือแย่งผู้ชาย แต่มันเป็นละครซีรี่ย์ที่สะท้อนถึงสังคมวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น วิน(มีกลวิธีในการเคลม) ของขวัญ(ปัญหาทางบ้าน) ปันปัน(เข้ากับเพื่อนไม่ได้) ภูมิ(ผิดเพศ) สไปท์(เอิ่ม… -0-) ต่อ(ชกต่อยเป็นชีวิตจิตใจ) ละครเรื่องนี้จึงสร้างขึ้นมาเพื่อแสดงให้วัยรุ่นเห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลอย่างไร นอกจากโดนใจวัยรุ่นไทยแล้วยังได้เห็นในหลายมุมมองอีกด้วย จึงไม่แปลกเลยที่ละครซีรี่ย์เรื่องนี้จะน่าดูและน่าติดตามมากขนาดไหน ^^
                                                                                   (ปล.น่ะจ๊ะ ข้อตวามนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ^3^)

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

What is Line ?






   LINE เป็นโปรแกรมแชทที่สามารถใช้งานได้ทั้งโทรศัพท์มือถือที่มีระบบปฏิบัติการ iOS, Android, Windows Phone ล่าสุดสามารถใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ PC และ Mac ได้แล้ว ด้วยความที่มีลูกเล่นมากมาย สามารถแชท ส่งรูป ส่งไอคอน ส่ง Sticker ตั้งค่าคุยกันเป็นกลุ่ม ฯลฯ ทำให้มีผู้ใช้งานแอพนี้เป็นจำนวนมาก


สิ่งที่โดดเด่นของ LINE
- สามารถเพิ่มกลุ่มสนทนาหรือเชิญเพื่อนได้ถึง 100 คน
- ออกแบบให้สามารถโทร.หากันฟรีแบบ 1 ต่อ 1
- พัฒนาคุณภาพของการโทร.ให้ดียิ่งขึ้น โดยตัดเสียงรบกวนและเสียงแทรกจากบริเวณรอบๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถพูดคุย
- ส่งวิดีโอ และข้อความเสียงฟรี

การแอดเพื่อนของ LNE สามารถทำได้หลายแบบ เช่น
- Shake It โดยเข้าโปรแกรม LINE ทั้งเราและเพื่อนแล้วให้เขย่าโทรศัพท์ใกล้ๆ กัน เพียงแค่นี้เพื่อนก็จะถูกแอดเข้ามาในรายชื่อของเราแล้ว
- แอดเพื่อนจากรายชื่อที่อยู่ในโทรศัพท์ โดยที่สามารถกดเลือกได้เลย
- แอดเพื่อนด้วย QR code โดยเมื่อเข้าไปแล้วจะมีช่องที่เป็นกล้องให้เราอ่าน QR Code ของเพื่อน
- แอดเพื่อนโดยการค้นหาไอดีของเพื่อน

นอกจากนี้ LINE ยังมีโปรแกรมเสริม ทั้ง LINE Camera ที่ถ่ายภาพฟรี พร้อมกรอบกว่า 100 แบบ และแสตมป์แต่งภาพมากกว่า 600 แบบเก๋ๆ โดยจุดเด่นของแอพพลิเคชั่นนี้คือ dki ตกแต่งภาพหลากหลายรวมไปถึงการถ่ายภาพผ่านฟิลเตอร์ถึง 14 แบบ ที่ช่วยปรับแต่งภาพและรายละเอียดให้ภาพของคุณดูดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยพู่กันกว่า 156 ชนิด เพื่อให้ผู้ใช้ได้แต่งแต้มด้วยแสตมป์และเลือกแบบตัวอักษรต่างๆ พิมพ์ข้อความลงบนภาพตามสไตล์ของตัวเอง และสามารถแชร์ภาพได้โดยตรงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อีกด้วย
อีกทั้งโปรแกรมส่งการ์ดฟรีที่เรียกว่า LINE Card โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความส่วนบุคคล โดยเลือกจากภาพการ์ดต่างๆ ได้ฟรีตามความชอบ และสามารถเลือกภาพของตัวเองจากคลังภาพและแทรกไปในภาพการ์ด เพื่อแต่งเติมและส่งต่อไปถึงบุคคลพิเศษนั่นเอง
แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นการต่อยอดแบบไม่มีหวงของ LINE ก็คือการนำโปรแกรม LINE มาไว้ใน PC สำหรับวินโดวส์และ Mac รวมถึงเบราเซอร์สำหรับสมาร์ทแท็บเล็ต ที่ผู้ใช้ยังสามารถใช้รหัส LINE QR เพื่อเข้าสู่ระบบในเวอร์ชั่นพีซีได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนผ่านโปรแกรม LINE ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน รวมถึงบริการของโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
จากการเติบโตที่รวดเร็วเมื่อเทียบกับโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ แล้ว ถือว่า LINE ได้เปรียบมาก เพราะแค่ 257 วัน ก็มีผู้ใช้ถึง 20 ล้านคน และหลังจากนั้นอีก 6 เดือน เพิ่มขึ้นถึง 35 ล้านคน จะเห็นได้ว่า LINE มีการเพิ่มขึ้นมากถึง 600 เปอร์เซ็นต์
เรียกได้ว่ามาแรงมากสำหรับโปรแกรม LINE นอกจากจะมีให้โหลดฟรีแล้ว ยังมีคุณสมบัติหลายอย่างให้เราได้เพลิดเพลินในการใช้ ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาเพื่อตอบสนองกับโลกออนไลน์ในปัจจุบัน ที่ไม่มุ่งหวังแต่รายได้ ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ในสมาร์ทโฟนของคนส่วนใหญ่ จะมีโปรแกรมนี้บรรจุอยู่แทบจะ 100%



ที่มา   http://www.com5dow.com/ไขปัญหาศัพท์-it/2204-line-คืออะไร.html

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556




นอกจากซีรี่ย์สุดฮอตอย่าง Hormones วัยว้าวุ่น จะทำคะแนนกับผู้ชมอย่างล้นเหลือแล้ว กระแสพี่ต่อสุดหล่อมาแรง หล่อ เท่ เก๋ สมาร์ท กับคำคมยอดฮิต คิดถึงเพื่อนก็ไปหาเพื่อนสิครับของพี่แกแบบว่าโคตรโดนเลยอ่ะ >< เลยขออัปเดตไผ่ ฮอร์โมนที่กำลัง pop ทะลุเพดานเลยแล้วกัน ^0^


ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร






      ชื่อจริง : ธนภพ ลีรัตนขจร
      ชื่อเล่น : ต่อ
      วันเกิด : 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537
      ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร
      อุปนิสัย : ร่าเริง สบาย ๆ ไม่ชอบเรื่องเครียด แต่จริงจังกับสิ่งที่ตั้งใจทำ
      กรุ๊ปเลือด : O
      การศึกษา : มัธยมศึกษา โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะอุตสาหกรรม  เกษตร   ภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
      สีที่ชอบ : สีน้ำเงิน
      กีฬา : บาสเกตบอล
      ตัวการ์ตูนที่ชอบ : ลูฟี่ One Piece
      ของสะสม : โมเดล

      งานอดิเรก : บาสเกตบอล, วาดรูป, เล่นเกมส์



ผลงานที่ผ่านมา
      ผลงานมิวสิควิดีโอ ถึงเวลาฟัง - ดา เอ็นโดรฟิน         
      ผลงานมิวสิควิดีโอ Secret Love - โก้ Mr.Saxman       
      ผลงานมิวสิควิดีโอ My Mama - ขัน (Thaitanium)
      ผลงานโฆษณา True Move H
      ผลงานโฆษณา Dutchmill 4in1 Micro Active
      ผลงานถ่ายแบบ BERRY (vol.3 no.26)
      ผลงานถ่ายแบบ I LIKE (no.239 November 2012)
      ผลงานถ่ายแบบ Bangkok Post (10 January 2013)
        ผลงานละคร Club Friday The Series ตอน ครั้งหนึ่งในความทรงจำ..ทำไปได้อย่างไร?
คู่นี้น่าร็อคเว่อร์อ่ะครึครึครึ >3<



ขอบคุณที่มาประวัติ:: http://women.kapook.com/view64224.html